Logo Background RSS

รีวิว รถมือสอง – โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์

  • Written by admin 8 Comments8 Comments Comments
    Last Updated: March 20th, 2009

    มาถึงตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า “FORTUNER” กลายเป็นรถอเนกประสงค์ ยอดฮิตติดตลาดและขายดิบขายดีอยู่ในขณะนี้ จนทำให้ทาง โตโยต้า ยิ้มแก้มปริทีเดียว โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ นั้นมีรุ่นต่างๆประกอบด้วย รุ่น 3.0G, 2.7V, 3.0V, Exclusive และ Smart หลังจากออกสู่ตลาดไม่นานนัก ก็เริ่มมีให้พบเห็นได้ตาม เต็นท์รถมือสอง บ้างแล้ว จนปัจุบัน โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ได้ทำการ ไมเนอร์เชนจ์ แล้ว เราจึงได้เห็น โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ตัวแรกอยู่ใน ตลาดรถมือสองค่อนข้างมาก แต่ความต้องการ รถรุ่นนี้ ก็มีอยู่สูงเช่นกัน ทำให้ราคาของมันค่อนข้างสูงพอสมควร

    ผมจะพูดถึง โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โดยภาพรวมนะครับ ส่วนรุ่นที่ผมนำภาพมาลงนั้น เป็นรุ่น Smart ที่ได้รับการตกแต่งมาจาก TRD (Toyota Racing Development) โดยตรงนะครับ รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Smart ในตลาดรถมือสอง ค่อนข้างหายากครับ และมีราคาสูงด้วย ว่ากันถึงหลัก ล้าน ทีเดียวครับ แต่ผมไม่สามารถหาภาพ รุ่นธรรมดา มาลงได้ เนื่องจากผมกลัวเรื่อง ลิขสิทธิ์ของภาพครับ

    ภายนอก

    ภายนอกของ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ นั้นแทบจะดูไม่ออกเลยว่าเป็นรถ PPV หรือ รถปิคอัพดัดแปลง แต่มันดูเป็น SUV เต็มตัวมากว่า แถมยังดูดีเกินราคาค่าตัวของมันอีกต่างหาก เพราะหน้าตาที่หล่อเหลาเกินหน้าเกินตาคู่แข่ง ในพิกัดเดียวกัน

    เนื่องจากรถ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ นั้นยังไม่เก่ามาก จึงควรเลือกซื้อรถคันที่เป็น สีเดิมจากโรงงาน เท่านั้นนะครับ ไม่ควรซื้อรถที่ผ่านการทำสีมาแล้วอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าผู้ขายจะอ้างเหตุผลอะไรก็ตาม

    ภายใน

    กว้างขวางนั่งสบาย ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง แต่ที่นั่งแถวที่ 3 ควรจะให้เด็กนั่งมากกว่าครับ เพราะมีพื้นที่วางขาค่อนข้างน้อยเกินไป สำหรับผู้ใหญ่ตัวโตๆ เบาะนั่งพับเก็บได้ค่อนข้าง อิสระ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ และยังมีช่องแอร์ด้านหลังด้วย เนื่องจากตัวรถ มีขนาดใหญ่ ช่องแอร์ด้านหน้าจึงไม่สามารถให้ความเย็นถึงด้านหลังได้

    การเลือกซื้อควรเลือกคันที่ อุปกรณ์ภายใน ยังอยู่ครบ และ ไม่มีการ ซีดของสี หรือ ฉีกขาด ครับ

    เครื่องยนต์และช่วงล่าง

    เครื่องยนต์ของ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นเครื่องดีเซล แบบ 4 สูบแถวเรียง ความจุ 3.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบ Common Rail Direct Injection ทำงานร่วมกับ เทอร์โบแปรผัน และ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุดที่ 163 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 – 3,200 รอบต่อนาที ระบบเกียร์มีให้เลือกทั้ง ธรรมดา 5 สปีด และ ออโตเมติก 4 สปีด

    ช่วงล่างหน้าแบบ ปีกนก 2 ชั้น, คอยล์สปริง และ โชคอัพ ช่วงล่างหลังแบบ 4 Links, คอยล์สปริง และ โชคอัพ ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว เบรกหน้า ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน เบรกหลัง ดรัมเบรก ระบบบังคับเลี้ยวแบบ แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง

    ในส่วนของเครื่องยนต์และช่วงล่างนั้นคงต้อง พึ่งผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุดครับ แต่ถ้าจะดูเองต้องลองขับ รถคันนั้นเป็นระยะทางพอสมควรครับ ถึงจะรู้สึกได้ การขับทดสอบสั้นๆที่ทดสอบกันหน้าเต้นนั้น บอกได้แค่ว่าเครื่องยนต์ยังทำงานได้เท่านั้นครับ เพราะฉะนั้นควรหา ช่าง หรือ ผู้มีประสบการณ์ ที่ไว้ใจได้ ไปดูรถด้วยจะดีกว่าครับ

    ราคารถมือสองในตลาดอยู่ระหว่าง 7.8 แสนบาท ไปจนถึง 1.1 ล้านบาท แล้วแต่รุ่น และ สภาพครับ