Logo Background RSS

911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) ใหม่ล่าสุด เบากว่า ประหยัดกว่า และเร็วกว่า

  • Written by admin No Comments Comments
    Last Updated: June 11th, 2015

    สตุ๊ดการ์ท. สตุ๊ดการ์ท. ปอร์เช่ ส่ง 911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) ใหม่ล่าสุดออกมาให้ยลโฉมโดยออกแบบมาเพื่อเอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบรถแข่งเป็นพิเศษ ด้วยศักยภาพและพละกำลังเครื่องยนต์ที่มากกว่า 368 กิโลวัตต์ (500 แรงม้า) การออกแบบเน้นในเรื่องของน้ำหนักเบา เพื่อให้ได้สมรรถนะและความสมดุลที่ยอดเยี่ยมตามหลักอากาศพลศาสตร์มากยิ่งขึ้น ลดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลง เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาเสถียรภาพของรถ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการบริการและอะไหล่ที่น้อยลง

    911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) มาพร้อมกับคุณสมบัติที่โดดเด่น นั่นคือหลังคาแบบ Double-bubble roof และมีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นอีก 8.3 เซ็นติเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนส่งผลให้รถมีการกระจายน้ำหนักได้สมดุลมากขึ้น และรักษาเสถียรภาพของรถได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วหากเทียบกับ จีที3 อาร์ (GT3 R) รุ่นเดิม ด้วยวิธีการลดน้ำหนักตัวรถได้กลายมาเป็นคำตอบสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวรถ อะไหล่ ช่วงล่าง และวิศวกรได้มีโอกาสที่จะพัฒนา จีที3 อาร์ (GT3 R) ให้ดีกว่ารุ่นเดิมยิ่งขึ้นไปอีก การออกแบบด้วยการใช้ตัวรถที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของ 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) มีจุดเด่นในการใช้โครงสร้างเหล็กอลูมิเนียม ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จของแนวคิดนี้ที่ใช้สำหรับรถแข่ง หลังคา ฐานล้อ ประตู ส่วนด้านข้างและส่วนท้ายรวมถึงฝากระโปรงด้านหลังทำจาก carbon-fibre composite material (CFRP) ที่มีน้ำหนักเบา ส่วนกระจกทั้งหมดรวมถึงกระจกบานหน้าที่มีส่วนผสมของ Polycarbonate เป็นครั้งแรก

    เครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดของ 911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) มีขนาด 4 ลิตร Flat six ประสิทธิภาพสูง และได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องยนต์ที่ทรงพละกำลังจากรถ 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) นั่นเอง ระบบ Direct petrol injection หรือระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง จะทำงานเมื่อมีแรงดันสูงที่ 200 บาร์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างระบบ Valve timing ได้ถูกติดตั้งอย่างครบครันภายในรถคันนี้ เพื่อให้แน่ใจว่ารถจะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่เพียงเท่านี้เครื่องยนต์ยังให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีและรอบเครื่องยนต์ที่กว้างมากขึ้น พละกำลังจากเครื่องยนต์วางหลังจะถูกย้ายเข้าล้อหลังผ่านระบบส่งกำลังแบบ Porsche sequential six-speed constant-mesh gearbox ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังในรุ่น 911 ที่เป็นแบบ GT Road ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายผ่านก้านเกียร์บนพวงมาลัยได้อีกด้วย

    หลักอากาศพลศาสตร์ของ 911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) ยังคงยึดหลักเพื่อการขับขี่บนท้องทั่วไป โดยฐานล้อที่โดดเด่นมาพร้อมกับระบบระบายอากาศทางด้านหน้าจะเพิ่มแรงกดบนเพลาหน้าให้มากขึ้น ความกว้างทางด้านหลังวัดได้ที่ 2 เมตร ในขณะที่ความลึกอยู่ที่ 40 เซ็นติเมตร ส่งผลให้ปีกหลังมีความสมดุลทางหลักอากาศพลศาสตร์ได้อย่างดีเยี่ยม จีที3 อาร์ (GT3 R) ได้นำแนวคิดหม้อน้ำรถยนต์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณกลางของรุ่น 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) มาใช้ และยกเลิกการติดตั้งหม้อน้ำรถที่อยู่ทางด้านข้าง ผลลัพธ์จากแนวคิดนี้คือ จุดศูนย์ถ่วงของรถมีการพัฒนาจากเดิม ส่วนหม้อน้ำได้รับการป้องกันจากฝุ่น และสามารถระบายลมร้อนออกทางด้านหน้าได้ดียิ่งขึ้น

    ระบบเบรกของ 911 จีที3 อาร์ (911 GT3 R) ยังได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมอีก และต้องขอบคุณประสิทธิภาพในการเกาะถนน และความแม่นยำในการควบคุมที่มากขึ้นของระบบ ABS ซึ่งทำให้รถมีสมรรถนะที่เหมาะสมกับการแข่งขันแบบระยะทางไกลอีกด้วย เพลาหน้าจะพบกับคาลิปเปอร์เบรกที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถแข่ง 6 สูบแบบโมโนบล็อก จานเบรกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 380 มิลลิเมตร เพื่อให้มั่นใจว่ารถมีประสิทธิภาพในการเบรกสูงสุด ส่วนทางด้านหลังมาพร้อมกับคาลิปเปอร์เบรก 4 สูบและจานเบรกเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 372 มิลลิเมตร

    อีกหนึ่งการพัฒนาที่โดดเด่นคือระบบความปลอดภัยใน จีที3 อาร์ (GT3 R) โดยถังน้ำมันได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยมากขึ้นแบบ FT3 Safety Fuel cell และเพิ่มความจุอีก 12 ลิตรเป็น 120 ลิตร เสริมด้วยระบบวาล์วตัดน้ำมัน fuel cut-off safety valve เพื่อความปลอดภัย ประตูและกระจกข้างสามารถถอดออกได้รวมถึงหลังคาที่เปิดได้ยาวขึ้น หากมีอุบัติเหตุ เบาะที่นั่งแบบ Racing bucket seat ใหม่ล่าสุดจะทำการป้องกันผู้ขับขี่ได้อีกด้วย

    ข้อมูลทางเทคนิคของปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์ 911 GT3 R (991)

    รถแข่งสำหรับหนึ่งที่นั่ง พัฒนาขึ้นจาก 911 จีที3 อาร์เอส (911 GT3 RS) Porsche 911 GT3 RS

    เครื่องยนต์
    – เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ 6 สูบ แบบ boxer engine (ติดตั้งอยู่ทางด้านหลัง)
    – ความจุ 4,000 cm3; การเคลื่อนตัวของลูกสูบ 81.5 มิลลิเมตร; กระบอกสูบ 102 มิลลิเมตร
    – กำลังขับ: มากกว่า 368 กิโลวัตต์ (500 แรงม้า) ตามเงื่อนไข FIA BoP (air restrictor)
    – เทคโนโลยีแบบ Four-valve technology
    – ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง Direct fuel injection
    – การหล่อลื่นแบบอ่างแห้ง Dry sump lubrication

    ระบบส่งกำลัง
    – ระบบเกียร์แบบ Porsche sequential six-speed constant-mesh gearbox
    – Mechanical slip differential
    – มาพร้อมกับการเปลี่ยนเกียร์แบบ Pneumatic gear-shift activation (ก้านเกียร์ paddle shift)

    ตัวรถ
    – ตัวรถน้ำหนักเบาทำจากเหล็กอลูมิเนียม
    – มาพร้อมกับ roll-cage ตามเงื่อนไขของ FIA Appendix J
    – ฝาหลังคาสามารถถอดได้ในกรณีที่ต้องออกจากรถแบบฉุกเฉิน
    – การออกแบบภายนอกรถด้วยวัสดุที่มีน้ำหนักเบา:
    – ประตู ฝาหลัง ปีกหลัง ฐานล้อ ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP)
    – กระจกบานหน้าที่มีส่วนผสมของ Polycarbonate
    – ประตูกระจกแบบโพลีคาร์โบเนตสามารถเคลื่อนย้ายได้
    – ถังน้ำมันมาพร้อมกับเทคโนโลยี FT3 safety fuel cell,
    – ขนาดความจุประมาณ 120 ลิตร มาพร้อมกับระบบตัดวาล์ว Fuel cut off safety valve
    เพื่อความปลอดภัยตามเงื่อนไขของ FIA
    – ระบบ Air jack system (four jacks)

    ระบบช่วงล่าง
    – ทางด้านเพลาหน้ามาพร้อมกับ McPherson strut สามารถปรับระดับความสูงได้
    – ล้อมาพร้อมกับ Wheel hubs ที่มี centre-lock wheel nuts
    – anti-roll bar แบบปรับเปลี่ยนทิศทางได้ (ซ้ายและขวา)
    – พวงมาลัยแบบ electro-hydraulic pressure feed

    เพลาหลัง
    – ช่วงล่างทางด้านหลังแบบ Multilink independent สามารถปรับระดับความสูง ของ camber และ toe ได้
    – ล้อมาพร้อมกับ Wheel hubs ที่มี centre-lock wheel nuts
    – anti-roll bar แบบปรับเปลี่ยนทิศทางได้ (ซ้ายและขวา)

    ระบบเบรก
    – ระบบเบรกที่แยกวงจรทางด้านหน้าและหลังจากกัน ปรับเปลี่ยนได้โดยผู้ขับขี่ผ่านระบบ Balance bar system

    เพลาหน้า
    – คาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 สูบ สำหรับรถแข่ง
    – จานเบรกแบบเหล็กพิเศษสามารถระบายความร้อนได้ เส้นผ่าศูนย์กลางด้านหน้าที่ 380 มิลลิเมตร และ
    aluminium disc bell

    เพลาหลัง
    – คาลิปเปอร์เบรก 4 สูบ สำหรับรถแข่ง
    – จานเบรกแบบเหล็กพิเศษสามารถระบายความร้อนได้ เส้นผ่าศูนย์กลางด้านหน้าที่ 372 มิลลิเมตร และ
    aluminium disc bell

    ล้อ/ยาง
    เพลาหน้า
    – ล้ออัลลอยด์ BBS แบบชิ้นเดียวซึ่งเป็นการออกแบบโดยเฉพาะจากปอร์เช่, 12.0J x 18 offset 17,
    – ขนาดยาง: 300/650-18 ทางด้านหน้า; 13J x 18 offset 37.5, ขนาดยาง: 310/710-18 ทางด้านหลัง

    ระบบไฟฟ้า
    – ระบบ COSWORTH power module IPS32
    – ระบบ Race ABS
    – ระบบควบคุม Traction control

    น้ำหนัก/สัดส่วน
    – น้ำหนักโดยรวม: ca. 1,220 กิโลกรัม (ตามเงื่อนไข BoP)
    – ความยาวโดยรวม: 4,604 มิลลิเมตร
    – ความกว้างของเพลาหน้า: 1,975 มิลลิเมตร
    – ความกว้างของเพลาหลัง: 2,002 มิลลิเมตร
    – ระยะฐานล้อ: 2,463 มิลลิเมตร